วันอังคารที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2557

วันอังคารที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2557

เทคโนโลยีอํานวยความสะดวก


7 เทคโนโลยีอํานวยความสะดวกแห่งอนาคตที่ถูกเผยโฉมออกมาในปี 2013


01_tech

ขีดจำกัดของเทคโนโลยีถูกทลายกำแพงลงในทุกปีด้วยความพยายามของมนุษย์ที่จะเอาชนะปัญหาและอุปสรรคต่างๆ เพื่อความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิตที่ ง่ายขึ้น และผลงานสิ่งประดิษฐ์ใหม่ก็เผยโฉมออกมาอยู่ตลอดเวลา มาดูกันว่าในปี 2013 มีเทคโนโลยีหรือสิ่งประดิษฐ์อะไรที่น่าสนใจบ้าง
Hyperloop
แนวคิดระบบขนส่งความเร็วสูงที่ใช้ท่อลดแรงดัน ขับเคลื่อนยานแคปซูลที่ทำงานด้วยแรงผลักของมอเตอร์เหนี่ยวนำและแรงอัดอากาศ แนวคิดนี้ถูกเปิดเผยออกมาในเดือนสิงหาคม 2013 ซึ่งหากแนวคิดนี้ผ่านการอนุมัติจะสามารถวิ่งจาก Los Angeles ไปยัง San Francisco Bay ได้ด้วยเวลาเพียง 35 นาที ซึ่งเทียบได้ว่าผู้โดยสารจะเดินทางด้วยความเร็วเฉลี่ย 962 กิโลเมตร/ชั่วโมง และสามารถทำความเร็วสูงสุดด้วยความเร็ว 1,220 กิโลเมตร/ชั่วโมง

02_tech


Curved display smartphone
ครั้งแรกที่เราเห็นหน้าจอสมาร์ทโฟนที่ออกแบบให้มีกระจกแบบโค้งเล็กน้อยต้องย้อนกลับไปที่ปี 2010 โดย Samsung Nexus S สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่มีกระจกโค้งปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรก แต่ในขณะนั้นยังไม่สามารถยืดหยุ่นหรือบิดโค้งงอได้ และในปี 2013 เป็นครั้งแรกที่มีการเปิดตัวอุปกรณ์ที่มีหน้าจอโค้งงอได้จริง โดยปีนี้มีทั้ง LG G Flex, Samsung Galaxy Round ถูกเปิดตัวออกมาและพร้อมวางจำหน่ายทั่วโลกในปีหน้า
03_tech

Oculus Rift
อุปกรณ์สวมหัวที่สามารถแสดงภาพเสมือนสมจริง (Virtual Reality) ซึ่งภายในแว่นเป็นจอภาพที่แยกตาซ้ายและตาขวาออกจากกัน ภาพที่ได้จึงเป็น 3 มิติ โดยพื้นที่ของจอภาพจะกินบริเวณกว้างไปถึงหางตา ทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกถึงความสมจริงของภาพ และยังมีระบบตรวจจับการเคลื่อนไหวของศีรษะ เมื่อเวลาหันหรือเปลี่ยนทิศทางการมอง มุมมองในแว่นก็จะเปลี่ยนตาม สามารถใช้งานร่วมกับเกมมันส์ๆ บนเครื่องพีซีและให้ความร้สึกสมจริงชนิดที่ว่าวางจอยคอนโทรลเลอร์กันไม่ลง

04_tech


Air Drones
หุ่นยนต์ตรวจจับความเคลื่อนไหวทางอากาศ ถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างมากในหลายองค์กร เพื่อเป้าหมายในการติดตามผลทางอากาศ บางองค์กรนำไปใช้ในการสำรวจและเฝ้าระวัง แต่ก็มีการนำไปเป็นเครื่องมือทางการทหารด้วยเช่นกัน

05_tech


3D printer
เครื่องพิมพ์สามมิติมีการพัฒนาขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1980 จนถึงปัจจุบันมีการนำเครื่องพิมพ์สามมิติไปใช้อย่างแพร่หลายในเชิงพาณิชย์ ช่วยให้การสร้างชิ้นงานด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบในวงการอุตสาหกรรมพัฒนาไปได้ก้าวไกลมากขึ้น ข้ามไปถึงความคิดที่จะนำเครื่องพิมพ์สามมิติไปใช้งานในอวกาศหรือเอาไปตั้งบนดวงจันทร์เพื่อสร้างเครื่องมือต่างๆ รวมถึงอาหารและที่อยู่อาศัยให้มนุษย์ได้ใช้งานนอกโลกเลยทีเดียว


06_tech


The New Space Race
  ทรัพยากรบนโลกใบนี้มีเพียงพอสำหรับคนทุกคน แต่มีไม่เพียงพอสำหรับคนโลภแม้เพียงคนเดียว การแข่งขันเพื่อแย่งชิงทรัพยากรนั้นก้าวล่วงไปถึงอวกาศเสียแล้ว โดยปีนี้นาซ่าได้เปิดตัวยานสำรวจดาวอังคารรุ่นใหม่ล่าสุด ส่วนจีนก็ส่งยานลงจอดที่ดวงจันทร์สำเร็จนับตั้งแต่ครั้งแรกในปี 1976 อีกไม่นานคงมีการนำหุ่นยนต์ไปเดินเล่นที่ดาวเคราะห์น้อย และอาจจะมองไกลไปถึงขั้นการนำแร่หรือทรัพยากรในดาวอื่นกลับมาสู่โลก


07_tech


Wearable Technologies
Google Glass แว่นตาอัจฉริยะจากค่าย Google ถูกเผยโฉมครั้งแรกในปี 2012 และถูกสร้างขึ้นมาอย่างจำกัดเพื่อการวิจัยพัฒนาต่อ จนกระทั่งในปี 2013 แว่นตาดังกล่าวได้กลายเป็นเครื่องมือจุดประกายให้ผู้ผลิตอุปกรณ์ไอทีเร่งผลักดันสินค้าประเภทอุปกรณ์สวมใส่และเครื่องแต่งกายไฮเทคมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น Pebble smartwatch, Samsung Galaxy Gear และ Qualcomm Toq เหล่านี้ยังเรียกว่าเป็นอุปกรณ์ รุ่นชิมลาง เพราะมีการคิดไกลไปถึงการออกแบบเสื้อผ้าฝังชิปหรือแม้กระทั่งวิกผมฝังชิปกันเลยทีเดียว


08_tech



ประโยชน์ของเทคโนโลยีสำหรับมนุษย์ก็คงจะเป็นเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพิ่มมากขึ้น แต่ต้องพึงระวังว่าการได้เทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้งานต้องไม่ใช่การทำร้ายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หากไม่เช่นนั้นแล้วในวันใดวันหนึ่งข้างหน้าธรรมชาติก็อาจจะลงโทษมนุษย์กลับคืนได้เช่นเดียวกัน

วันอังคารที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2557

เทคโนโลยีการสื่อสาร

ทคโนโลยีการสื่อสาร


                       เทคโนโลยีการสื่อสาร ย้อนรอยจากอดีตสู่ปัจจุบัน

           มนุษย์เราเป็นสัตว์สังคมที่อยู่ร่วมกันและมีการสื่อสารกันตลอดเวลา และด้วยความชาญฉลาดของมนุษย์ในการถ่ายทอดเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะด้วยจุดประสงค์ในด้านความเชื่อทางศาสนา การบันทึกเรื่องราว หรือแม้แต่การส่งสาร เหล่านี้เองที่ก่อให้เกิดการประดิษฐ์คิดค้นเทคโนโลยีใน การสื่อสารใหม่ ๆ ที่ค่อย ๆ เชื่อมโลก จากกลุ่มคนเล็ก ๆ สู่คนในอีกฟากโลกหนึ่ง และเชื่อมต่อกันได้ทั้งโลก ก่อให้เกิดกระวนการศึกษาเรียนรู้ต่าง ๆ ตามมา
        
      1.โทรศัพท์ (Telephone)ถือกำเนิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา เมื่อ ค.ศ. 1876 (พ.ศ. 2419) อเล็กซานเดอร์ เกร์แฮม เบลล์ วิศวกรชาวสก็อต โดยอาศัยหลังการแปลงคลื่นสัญญานเสียงเป็นไฟฟ้า และส่งต่อสัญญาณไปตามสายไฟฟ้า จากโทรศัพท์เครื่องหนึ่งไปสู่ปากกระบอกของโทรศัพท์อีกเครื่องหนึ่ง
                        Telephone
         2.กำเนิดเครื่องรับส่งวิทยุโทรเลข (First Transatlantic Signal) หลังจากที่ กูลเยลโม มาร์โคนี นักวิทยาศาสตร์ชาวอิตาลี ได้ประดิษฐ์เครื่องรับส่งวิทยุโทรเลขเครื่องแรกของโลกขึ้น จนสร้างความตื่นตะลึงให้กับคนทั้งโลกมาแล้วด้วยระบบการส่งสัญญาณไร้สาย และได้ถูกนำไปใช้ในกิจการเดินเรือในฐานะเครื่องมือสื่อสารที่สะดวก รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในยุคนั้น ต่อมาเขาก็สามารถพัฒนาเครื่องส่งสัญญาณวิทยุโทรเลขให้สามารถส่งสัญญาณข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก จากคอร์นวอลล์ ประเทศอังกฤษ ถึง เกาะนิวฟันด์แลนด์ ประเทศแคนาดา ได้สำเร็จใน ค.ศ.1902 (พ.ศ. 2445)  

                                    02

          3.การแพร่ภาพโทรทัศน์ครั้งแรกของโลก (First TV Broadcast) เมื่อราว ค.ศ. 1927 (พ.ศ. 2470) ในสก็อตแลนด์ จอห์น โลจี เบร์ด วิศวกรชาวสกอตแลนด์ สามารถประดิษฐ์ระบบโทรทัศน์ได้สำเร็จเป็นคนแรกของโลก ในช่วงเวลาเดียวกับที่นักวิทยาศาสตร์จากชาติอื่น ๆ ก็อยู่ในระหว่างทดลองและประดิษฐ์การรับส่งสัญญาณภาพของโทรทัศน์เช่นกัน และนั่นเป็นผลให้ จอห์น โลจี เบร์ด ได้รับการยกย่องให้เป็น บิดาแห่งโทรทัศน์

       4. เริ่มปล่อยสัญญาณ ARPANET (ARPANET Launched) เครือข่าย ARPANET (Advanced Research Projects Agency NETwork) เป็นเครือข่ายสำนักงานโครงการวิจัยชั้นสูงของกระทรวงกลาโหม ประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) เพื่อจุดประสงค์ทางด้านการวิจัยขั้นสูง ที่ต้องการให้คอมพิวเตอร์สามารถเชื่อมต่อ และมีปฏิสัมพันธ์กันได้ และต่อมาเครือข่าย ARPANET ก็ได้ถูกพัฒนาให้กลายเป็นเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน

     5.เวิล์ด ไวด์ เว็บ (WWW/World Wide Web) เครื่องข่ายข่าวสารที่เชื่อมโลกถึงกันนี้ กำเนิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา เมื่อ ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) หลังจากที่รัฐบาลของสหรัฐอเมริกาได้พัฒนาและปล่อยระบบควบคุมอินเทอร์เน็ตออกมา เวิล์ด ไวด์ เว็บ จึงเกิดขึ้น นำมาซึ่งการส่งต่อข้อมูลข่าวสารที่รวดเร็วทั่วโลกมาจนถึงปัจจุบัน 
                     WWW/World Wide Web

        6. AIM Messenger หรือ American Online Instant Messenger ถือกำเนิดในสหรัฐอเมริกา เมื่อ ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) เป็นโปรแกรมแชทยอดนิยมในสหรัฐอเมริกาที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสื่อสารกันผ่านอินเทอร์เน็ตได้ด้วยการส่งข้อความ รูปภาพ และคลิปวิดีโอถึงกัน

                            aim7_beta

           7.บล็อก (Blogging) นับตั้งแต่ Blogger.com ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา เมื่อ ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) ความนิยมในการเขียนบล็อกก็เพิ่มขึ้นและกระจายไปทั่วทั้งโลก โดยบล็อกนั้นเป็นรูปแบบเว็บไซต์ประเภทหนึ่ง ซึ่งถูกเขียนขึ้นในลำดับที่เรียงตามเวลาในการเขียน ซึ่งจะแสดงข้อมูลที่เขียนล่าสุดไว้แรกสุด โดยเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้ามาชมเนื้อหาและร่วมแสดงความคิดเห็นภายในบล็อกได้ 
                       blogger
           8. เฟซบุ๊ก (Facebook) เป็นบริการเครือข่ายโซเชียลเน็ตเวิร์กที่มีผู้ใช้งานมากที่สุด โดยในทุกวันนี้มีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กถึงประมาณ 850 ล้านคนทั่วโลก ก่อตั้งขึ้นโดย มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด ในสหรัฐอเมริกา เมื่อ ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) ร่วมกับเพื่อน ๆ คือ เอ็ดวาร์โด ซาเวริน, ดิสติน มอสโควิตซ์ และคริส ฮิวส์ โดยในช่วงแรกเฟซบุ๊กได้เปิดให้ใช้งานเฉพาะนักศึกษามหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด ก่อนที่ต่อมาจะได้ขยายตัวออกไปยังมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ทั่วสหรัฐอเมริกา และขยายมาให้บริการแก่ผู้ใช้ทั่วไปทุกคนเหมือนในปัจจุบัน
                  

        9.ยูทูบ (YouTube) เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการอัพโหลดและและเปลี่ยนคลิปวิดีโอ โดยผู้ใช้ ถือกำเนิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา จากความร่วมมือในการก่อตั้งของ แชด เฮอร์ลีย์, สตีฟ เชง และ ยาวีด คาริม อดีตพนักงานบริษัทเพย์พาล เมื่อ ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของกูเกิล
         
            YouTube

       10.ทวิตเตอร์ (Twitter) ก่อตั้งเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2549 เปิดตัวเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2549 มีบริษัท Obvious Corp ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเจ้าของ แต่ผู้ที่พัฒนาทวิตเตอร์ขึ้นมาคือ Evan Williams และ Meg Hourihan ja

Twitter logo